เรียกได้ว่า 'อ้าปากค้าง' กันแทบทั้งประเทศ กับการเปลี่ยนแปลงของสาวไทยคนแรกที่เป็นผู้ชนะของรายการชื่อดังที่ได้รับโอกาสเปลี่ยนโฉมจากการศัลยกรรมในประเทศเกาหลี ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้เจอะเจอตัวจริงเธอไม่พลาดขอทำความรู้จักและเปิดใจกับชีวิตใหม่หลังศัลยกรรมของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง...
เธอเดินเข้ามาหาเรามองแบบผิวเผินเธอคือผู้หญิงสาวธรรมดาทั่วไปไม่ได้สวยหยาดเยิ้ม หรือสวยจนใครหลายคนต้องเหลียวหลัง แต่ถ้าใครได้ดูรูปภาพเธอก่อนหน้านี้รับร้องต้องตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของสาวคนนี้อย่างแน่นอน เริ่มจากการแนะนำตัวให้เรารู้จัก เธอชื่อ หลิน วงศ์ตะวัน ภานุประทีป อายุ 23 ปี เธอเป็นสาวใต้จากหาดใหญ่ จ.สงขลา ปัจจุบันเพิ่งได้งานทำเป็นพีอาร์อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในหาดใหญ่
หลิน วงศ์ตะวัน ภานุประทีป
ก่อนและหลังศัลยกรรม
จาก 240 คนเข้าสู่ 12 คนสุดท้าย เปลี่ยนชีวิตเธอทันที
หลินเล่าว่า เธอเข้ามาร่วมรายการได้ เพราะเห็นทางโซเชียลรับสมัครอยู่ เธอจึงได้เข้าไปสมัครในเว็บไซต์ ลองสมัครดูเพราะเผื่อจะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
เธอยังเล่าถึงขั้นตอนการเข้ามาในรายการอีกว่า มีการคัดเลือกสาวๆ ที่เข้าสมัครจาก 240 คน เหลือ 40 คน และเหลือ 24 คนจึงมาแบทเทิลกัน เอาแค่ 12 คนไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี กับคุณหมอศัลยกรรมมากฝีมือในประเทศเกาหลี
ความทนทุข์ ตัดสินใจร่วมรายการศัลยกรรม
ถามว่าอะไรทำให้ตัดใจเข้าร่วมรายการนี้ ? หลินตอบกลับมาว่า เธอต้องทนทุกข์กับปัญหาหน้าตาของตัวเอง ถูกเพื่อนล้อตลอดเวลาว่าเป็นแก้วหน้าม้าบ้าง เป็นนู่นนี่บ้าง จนหมดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าสบตาผู้คน ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน นอกจากนั้นการที่เธอคางยื่น ฟันเหยิน ทำให้เวลาทานอาหารลำบากมาก นั่นหมายถึงเธอต้องทนทุกข์ทั้งกายและใจ แต่เธอคิดว่าถ้าได้เปลี่ยนแปลงตัวเองชีวิตอาจจะดีขึ้นก็ได้
หลินไม่ใช่แก้วหน้าม้าอีกต่อไป
ชีวิตเปลี่ยน! ยืมเงินข้างบ้านเดินทางเข้ากรุงร่วมรายการศัลยกรรม
หลินเล่าว่าปัญหาที่หนักไปกว่าการถูกล้อและปัญหาเรื่องการรับประทานอาการนั้นคือ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ อาจจะเพราะหน้าตาของเธอก่อนหน้านี้ที่ดูบึ้งตึงไม่รับแขก แม้แต่ตำแหน่งแม่บ้านยังไม่มีใครเอา หลินจึงตัดสินใจขอยืมเงินข้างบ้านเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนที่เรื่องราวชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต เธอยังบอกอีกว่ามาร่วมรายการนี้เพราะอยากทำงาน อยากมีเงิน แล้วช่วยเหลือพ่อแม่ เพื่อตอบแทนที่ท่านเลี้ยงเรามา
ความทรมานที่เต็มไปด้วยความสุข
หลินยังเล่าถึงการศัลยกรรมในรายการให้เราฟังอีกว่า เธอศัลยกรรมทั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ขากรรไกรบน-ล่าง ฉีดไขมันหน้าผาก ดูดไขมันใต้คาง ใช้เวลาทำทั้งหมดเป็นเวลา 3 เดือน หลินบอกว่าระยะเวลา 3 เดือน ที่เธอทำศัลยกรรมทั้งหมดมันไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่เธอทรมาน เพราะช่วงนั้นไม่สามารถทานอาหารได้ปกติ ไม่สามารถพูดได้เลยต้องเขียนผ่านกระดานโต้ตอบกับคนอื่น แต่พอทุกอย่างผ่านมาได้เราก็แฮปปี้มีความสุขกับสิ่งที่ได้รับ ทุกวันนี้เรายังไม่ชินหน้าของตัวเองเลย เพราะเปลี่ยนไปมากจริงๆ ชีวิตเราดีขึ้นมาก
ชีวิตหลินเปลี่ยนแล้วค่ะ
สวยใส สไตล์หลิน
หลินคนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
หลินเล่าต่อว่า ตอนนี้ไปไหนมาไหนคนรอบข้าง คนรู้จัก พบเจอเราก็ตื่นเต้นไปกับเราด้วย ชื่นชมเราเป็นหลินคนใหม่ ทำให้เธอมีความมั่นใจขึ้นกว่าเดิมมาก และที่สำคัญเธอมีงานทำแล้วด้วย ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เธอบอกว่า ต้องดร็อปเรียนจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของทางบ้าน จึงออกมาหางานทำแต่ไม่มีที่ไหนรับ หลังจากไปศัลยกรรมกลับมาแล้วในที่สุดหลินก็มีงานทำ
หลินส่งกำลังใจถึงทุกคนที่มีปัญหา
หลังจากทำศัลยกรรมแล้ว หลินก็คงใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลินอยากให้กำลังใจทุกคนที่มีปัญหา ไม่ว่าเราจะมีหน้าตาหรือสถานะแบบไหนหลินอยากให้สู้ อย่ายอมแพ้ ก่อนหน้านี้หลินก็ไม่ยอมแพ้ ไปสมัครงานกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสักครั้ง แต่หลินไม่หยุดหางาน ชาวโซเชียลบอกว่าไม่ต้องทำศัลยกรรมก็ได้แค่เรามีความงามจากข้างใน อันนี้เรามีความคิดเห็นยังไง ? จริงๆ หน้าตาก็เป็นส่วนสำคัญในการสมัครงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน มันแล้วแต่มุมมองความคิดของแต่ละคน ถ้าทำศัลยกรรมแล้วชีวิตเราดีขึ้น หน้าที่การงานเราก้าวหน้าขึ้นก็ทำไปเถอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลินยังบอกอีกว่าเราต้องเป็นคนดี กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
สุดท้ายเธอบอกว่า ต้องขอบคุณรายการ ที่ให้โอกาสหลินในการพลิกชีวิตครั้งนี้ ขอบคุณที่ทีมงานดูแลหลินดีมากๆ ตั้งแต่ได้รับคัดเลือก จนกระทั่งผ่าตัดกลับมา ขอบคุณที่ทำให้คนหนึ่งเปลี่ยงแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งหน้าตาและบุคลิกภาพ รวมถึงการแต่งกาย มีพื้นที่ยืนในสังคม หลินจะใช้โอกาสที่ได้มาดูแลครอบครัวอย่างที่ตั้งใจไว้ให้ดีที่สุด ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
หลินในรายการ Let Me In Thailand
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด